top of page
S02-0431.jpg

ศูนย์จอประสาทตา และเบาหวานเข้าตา

จอประสาทตาเสื่อม (Age-Related Macular Degeneration: AMD) คือ ภาวะที่นำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น ซึ่งพบได้มากในคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป มีสาเหตุจากจุดรับภาพตรงกลางของจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งโรคจอประสาทตาเสื่อมเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและประเภท

โรคเกี่ยวกับจอประสาทตา

จอประสาทตาหรือ Retina เป็นส่วนประกอบดวงตาที่อยู่บริเวณหลังผนังด้านในสุด มีลักษณะเป็นชั้นบางๆ ประกอบไปด้วยเซลล์รับภาพจำนวนมาก ในภาวะที่จอประสาทตาปกติ เมื่อเราใช้สายตาเพื่อมอง แสงที่กระทบและหักเหผ่านเลนส์ตาจะมาตกกระทบจุดศูนย์กลางของจอประสาทตาพอดี ทำให้ภาพที่มองเห็นมีความคมชัด เราจึงสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอิสระ แต่เมื่อไรก็ตามที่เกิดปัญหาขึ้นกับจอประสาทตา การมองเห็นภาพก็ย่อมได้รับผลกระทบโดยตรง

ปัญหาของจอประสาทตาที่พบได้บ่อยมีดังนี้

  • จอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ เป็นภาวะความเสื่อมที่เกิดขึ้นตามวัย พบได้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มักมีอาการตามองไม่ชัดเฉพาะตรงกลางภาพ แต่เห็นภาพข้างๆ ได้เหมือนเดิม บางรายอาจเห็นภาพบิดเบี้ยว

  • เบาหวานขึ้นจอกระสาทตาในผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นมากที่สุดของคนวัยทำงาน ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการใดๆ เลย ในขณะที่โรคดำเนินไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม อาการที่อาจบ่งชี้ว่าอาจนำไปสู่ภาวะปัญหาที่จอประสาทตา ได้แก่ การมองเห็นภาพแย่ลง เห็นเงา หรือมองเห็นจุดดำลอยไปมาในตา สิ่งสำคัญคือ ผู้ป่วยเบาหวานควรตระหนักถึงความเสี่ยงของตนเอง และปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจตาสำหรับผู้ป่วยเบาหวานสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ หากตรวจแล้วแม้จะไม่พบความผิดปกติ แพทย์ยังต้องนัดเข้ามาตรวจเป็นระยะๆ เพื่อติดตามดูความเปลี่ยนแปลงของจอประสาทตาเพื่อจะได้รับมือกับผลกระทบที่เกิดกับจอประสาทตาได้ตั้งแต่แรกเริ่ม

  • จอประสาทตาเสื่อมจากพยาธิสภาพของจอตาเอง มักเป็นมาแต่กำเนิด เช่น จอประสาทตาบางกว่าปกติ มีรูขาด หลุดลอก หรือจอประสาทตาเสียหายจากภาวะสายตาสั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดในผู้ที่มีสายตาสั้นมากๆ
     

นอกจากนี้ ยังมีโรคของจอประสาทตาที่เกิดจากโรคเลือดบางอย่างทั้งเลือดข้นมากและเลือดจาง โรคในกลุ่มภูมิต้านตนเอง (autoimmune disease) โรคติดเชื้อ รวมถึงอุบัติเหตุที่เกิดกับดวงตาหรือปัญหาจากการผ่าตัดดวงตา

สาเหตุ ของโรคจอประสาทตาเสื่อมคืออะไร ?

มีหลายภาวะที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ เช่น คนที่มีสายตาสั้นมาก ๆ (Degenerative or Pathologic Myopia) หรือโรคติดเชื้อบางชนิด แต่สาเหตุส่วนใหญ่จะพบในผู้สูงอายุ จึงเชื่อว่าเป็นขบวนการเสื่อมสภาพของร่างกาย (Aging Process) แต่ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน มีปัจจัยเสี่ยงหลายด้านที่ส่งผลต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมตามอายุ (Aged related macular degeneration) ได้แก่

  • อายุ พบโรคนี้ได้บ่อยขึ้นในคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป

  • พันธุกรรม มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของคนที่เป็นโรคกับญาติสายตรง ผู้เกี่ยวข้องควรได้รับการตรวจเช็คจอประสาทตาทุก ๆ 2 ปี

  • เชื้อชาติ / เพศ พบอุบัติการของโรคมากที่สุดในคนผิวขาว (Caucasian) เพศหญิง อายุมากกว่า 60 ปี

  • การดื่มสุรา และสูบบุหรี่ มีหลักฐานทางการศึกษาพบว่า การดื่มสุรา และสูบบุหรี่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอย่างชัดเจน

  • ความดันเลือดสูง ผู้ป่วยที่ต้องทานยาลดความดันเลือด และมีระดับของไขมัน Cholesterol ในเลือดสูง และระดับ Carotenoid ในเลือดต่ำ มีความเสี่ยงสูงมากต่อการเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมแบบสูญเสียการมองเห็นอย่างรวดเร็ว (Wet AMD)

  • วัยหมดประจำเดือน ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่ไม่ได้รับประทานยาฮอร์โมน Estrogen พบว่าอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน

  • การได้รับแสง รังสีอัลตราไวโอเลต และแสงสีฟ้าที่เป็นแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอสมาร์ทโฟน เป็นระยะเวลานาน

อาการของโรคประสาทตาเสื่อมเป็นอย่างไร ?

  • ภาพบิดเบี้ยว มองเห็นเส้นตรงเป็นเส้นขาด

  • มองภาพ หรืออ่านหนังสือที่ต้องใช้งานละเอียดยากกว่าปกติ

  • มองไม่เห็นส่วนกลางของภาพ

  • การมองภาพต้องใช้แสงเพิ่มขึ้น มองเห็นลดลง ไม่ตรงกลางเส้น การมองเห็นสีลดลง

ทีมจักษุแพทย์ TRSC

จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำวุ้นและจอประสาทตา

bottom of page