top of page

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

หมายถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ทีอาร์เอสซีฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ คนไข้ ผู้รับบริการ ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ลูกค้า พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมและการดำเนินงานต่างๆ ของทีอาร์เอสซีฯ

“ท่าน”

1.  นิยาม

“ทีอาร์เอสซีฯ”

หมายถึง บริษัท ศูนย์รักษาสายตา จำกัด หรือ The Refractive Surgery Center Ltd.

“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”

“ข้อมูลส่วนบุคคล”

“ประมวลผล”

หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ในอนาคต

หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การปรึกษา การใช้ การเปิดเผย (โดยการส่ง โอน การเผยแพร่ หรือการทำให้สามารถเข้าถึง หรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ) การจัดเรียง การนำมารวมกัน การบล็อก หรือจำกัด การลบหรือการทำลาย

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”

หมายถึง บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”

หมายถึง บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

2.  รายละเอียดทั่วไป

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ จัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียด และวิธีการจัดการ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ทีอาร์เอสซีฯ ได้รับมาจากท่าน วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และประมวลผล ตลอดจนระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เนื่องจากทีอาร์เอสซีฯ ประกอบกิจการในประเทศไทย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจึงอยู่ภายใต้บังคับและต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย

3.  เกี่ยวกับทีอาร์เอสซีฯ

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทีอาร์เอสซีฯ (โปรดคลิกที่นี่) ทีอาร์เอสซีฯ จะประมวลผล และรักษาให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามรายละเอียดที่กำหนดในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ 

4.  วิธีเก็บรวบรวม และรับข้อมูลส่วนบุคคล

4.1  ทีอาร์เอสซีฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับทีอาร์เอสซีฯ โดยตรง: ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ทีอาร์เอสซีฯ โดยตรง กรณีนี้มักเกิดขึ้นเมื่อท่านติดต่อกับทีอาร์เอสซีฯ เพื่อรับการบริการ รับการรักษา สอบถาม หรือกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ โดยทางออนไลน์ หรือโดยเอกสาร เพื่อสมัครใช้บริการ หรือร่วมกิจกรรม สอบถามข้อมูล รับการติดต่อสื่อสารทางการตลาด หรือให้ความเห็น/คำติชมแก่ทีอาร์เอสซีฯ เป็นต้น

  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทีอาร์เอสซีฯ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ: ทีอาร์เอสซีฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคบางอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์ กิจกรรม และรูปแบบการเข้าชม ข้อมูลประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Browsing) ของท่านโดยอัตโนมัติโดยใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู (นโยบายการใช้คุกกี้)

  3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทีอาร์เอสซีฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก: ทีอาร์เอสซีฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอกเป็นครั้งคราว อาทิ ตัวแทน ผู้ให้บริการ หน่วยงานของรัฐ คู่สัญญา ผู้ประกอบวิชาชีพ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ  บุคลากรของทีอาร์เอสซีฯ

4.2  ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน ทีอาร์เอสซีฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านเพื่อให้ทีอาร์เอสซีฯ สามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

5.  ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

5.1  ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทีอาร์เอสซีฯ เก็บรวมรวบภายใต้คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ เป็นข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในประเภทดังต่อไปนี้

  1. ผู้รับบริการและคนไข้ ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่เข้ารับการรักษา ผู้รับบริการ ผู้เข้าชมเว็บไซต์ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม และบุคคลอื่นใดซึ่งติดต่อเพื่อขอข้อมูลหรือขอรับบริการจากทีอาร์เอสซีฯ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลโดยทางตรงหรือทางอ้อม

  2. คู่สัญญา ผู้ประกอบวิชาชีพ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของทีอาร์เอสซีฯ ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่เป็นคู่สัญญาหรือมีความเกี่ยวข้องตามสัญญาใด ๆ กับทีอาร์เอสซีฯ ซึ่งหมายความรวมถึงผู้ประกอบวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง จักษุแพทย์ ผู้ให้บริการ ผู้รับทำงาน ที่ปรึกษา คู่ค้า ผู้ขาย ผู้จัดหา และบุคคลอื่น ๆ ในลักษณะคล้ายคลึงกัน

  3. บุคลากรของทีอาร์เอสซีฯ ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่เป็นจักษุแพทย์ ที่ปรึกษา พนักงาน ลูกจ้าง หรือบุคคลใดที่ทำงานให้แก่ ทีอาร์เอสซีฯ กรรมการ ผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และบุคคลที่ได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ หรือผลตอบแทนอื่นใดโดยตรงจากทีอาร์เอสซีฯ และหมายความรวมถึงบุคคลในครอบครัวของบุคลากรของทีอาร์เอสซีฯ

  4. ผู้สมัคร ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่ได้ยื่นใบสมัคร หรือรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวมาที่ทีอาร์เอสซีฯ ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษรหรือวาจา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสมัครงาน/สมัครฝึกงาน เป็นพนักงานหรือลูกจ้าง/ผู้ฝึกงานของทีอาร์เอสซีฯ ซึ่งยังไม่ได้รับคัดเลือกจากทีอาร์เอสซีฯ และหมายความรวมถึงบุคคลในครอบครัวผู้สมัคร และบุคคลอ้างอิง

5.2  ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและอยู่ภายใต้คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับทีอาร์เอสซีฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ทีอาร์เอสซีฯ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ทีอาร์เอสซีฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก เช่น

  1. ข้อมูลส่วนตัว อาทิ ชื่อนามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ รูปถ่าย หมายเลขและสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประจำตัวประชาชน ลายมือชื่อ สัญชาติ สถานภาพสมรส และข้อมูลบุคคลในครอบครัว

  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว อาทิ ข้อมูลทางการแพทย์หรือข้อมูลสุขภาพ ผลการตรวจสุขภาพ ความพิการ และข้อมูลชีวภาพ ศาสนา ประวัติอาชญากรรม

  3. ข้อมูลการติดต่อ อาทิ ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลการติดต่อทางโซเชียลมีเดีย และรายละเอียดบุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน

  4. ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน อาทิ หมายเลขบัญชีธนาคาร และข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอากรต่าง ๆ

  5. ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบต่าง ๆ ของทีอาร์เอสซีฯ อาทิ ข้อมูลลงทะเบียนเพื่อสมัครใช้บริการระบบของทีอาร์เอสซีฯ ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน รหัสประจำตัว (Username) รหัสผ่าน (Password) และรหัสลับ (PIN) (ถ้ามี) ข้อมูลที่แสดงบนหน้าประวัติผู้ใช้งานและหน้าการสมัครบริการต่าง ๆ ข้อมูลที่ท่านได้แก้ไข ปรับปรุงในข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ของท่าน ข้อมูลที่ได้จากบัญชีผู้ใช้งาน (Account) อื่น ๆ ที่ทีอาร์เอสซีฯ มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าท่านควบคุมดูแลอยู่ ข้อมูลการใช้บริการ ความสนใจและความเห็นทุกอย่างที่ท่านได้แสดงผ่านระบบของทีอาร์เอสซีฯ (ถ้ามี) ข้อมูลการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของท่านในระบบของทีอาร์เอสซีฯ ข้อมูลการทำแบบสอบถาม ข้อมูลที่ได้จากการที่ท่านติดต่อกับทีอาร์เอสซีหรือทีมงานของทีอาร์เอสซีฯ

  6. ข้อมูลด้านเทคนิค อาทิ ข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์และระบบต่างๆ ของทีอาร์เอสซีฯ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) ข้อมูลการติดต่อและสื่อสารระหว่างท่านและผู้ใช้งานรายอื่น ข้อมูลจากการบันทึกการใช้งาน เช่น ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP ของคอมพิวเตอร์ รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์ ข้อมูลเครือข่ายมือถือ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประเภทของบราว์เซอร์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกระบบ ข้อมูลแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ท่านเข้าถึงก่อนและหลัง (Referring Website) ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้ระบบ ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ (Login Log) ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log) พฤติกรรมการใช้งาน (Customer Behavior) สถิติการเข้าระบบ เวลาที่เยี่ยมชมระบบ (Access Time) ข้อมูลที่ท่านค้นหา การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ในระบบ และข้อมูลที่ทีอาร์เอสซีฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน

  7. ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา การฝึกอบรม และการทำงาน อาทิ ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม หนังสือรับรองคุณวุฒิหรือใบแสดงผลการศึกษา ผลคะแนน หรือระดับคะแนน ระดับการศึกษา ความสามารถทางภาษา ข้อมูลใบอนุญาตในการประกอบวิชาชีพ เลขที่ทะเบียน วันที่เริ่มอายุทะเบียน วันที่หมดอายุทะเบียน การต่ออายุทะเบียน ข้อมูลการปฏิบัติหน้าที่ วันที่เริ่มงาน ข้อมูลการอบรมและข้อมูลการทดสอบซึ่งจัดโดยทีอาร์เอสซีฯ หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตร ประวัติการทำงาน เงินเดือนหรือค่าจ้าง

  8. ข้อมูลอื่น ๆ อาทิ บันทึกภาพและ/หรือเสียงผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) ภาพถ่าย บันทึกภาพและเสียง บันทึกเสียงการสนทนา และข้อมูลแสดงแนวโน้มการซื้อสินค้าหรือบริการ

5.3  ในกรณีที่ทีอาร์เอสซีฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ทีอาร์เอสซีฯ จะดำเนินการกับข้อมูลดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้

6.  วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.1  ทีอาร์เอสซีฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (รวมเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”) และภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้

  • เพื่อประโยชน์ในการตรวจรักษาและให้คำปรึกษา แนะนำ หรือแนวทางในการรักษาทั้งในปัจจุบันและอนาคต

  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

  • เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับทีอาร์เอสซีฯ หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น

  • เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของทีอาร์เอสซีฯ

  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของทีอาร์เอสซีฯ หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นนอกเหนือไปจากทีอาร์เอสซีฯ

  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของทีอาร์เอสซีฯ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ทีอาร์เอสซีฯ

  • เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน

  • เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการให้บริการด้านลูกค้าสัมพันธ์ เช่นการติดต่อเพื่อเสนอบริการด้านการรักษาที่เหมาะสมแก่ท่าน

  • เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการสำรวจความพึงพอใจ การวิจัยพฤติกรรมของผู้เข้ารับบริการและผู้เข้ารับการรักษา และเพื่อการวิเคราะห์ทางสถิติ ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงการให้บริการทางด้านการรักษา และการให้บริการ

  • เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการสื่อสาร ตอบคำถามหรือตอบข้อร้องเรียนที่เกี่ยวกับการให้บริการ และการรักษา

  • ความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับทีอาร์เอสซีฯ เมื่อไม่สามารถอาศัยข้อยกเว้นหรืออ้างอิงฐานทางกฎหมายตามกรณีที่ระบุข้างต้น หรือตามกรณีที่ระบุในตารางล่างนี้ ทั้งนี้ หากทีอาร์เอสซีฯ ขอความยินยอมเป็นการเฉพาะจากท่านสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ทีอาร์เอสซีฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งและที่ได้รับความยินยอมจากท่าน และทีอาร์เอสซีฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ในกรณีที่ทีอาร์เอสซีฯ สามารถทำได้ตามกฎหมายหรือโดยได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากท่าน

thai.png

6.2  เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทีอาร์เอสซีฯ จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 6.1 ข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่ทีอาร์เอสซีฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรือทีอาร์เอสซีฯ อาจจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว ทีอาร์เอสซีฯ อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการให้บริการที่เกี่ยวข้องต่อท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

6.3  ในกรณีที่ทีอาร์เอสซีฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น ทีอาร์เอสซีฯ จะจัดให้มีคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติม เพื่ออธิบายการใช้ข้อมูลในวัตถุประสงค์ดังกล่าว ท่านควรอ่านคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องดังกล่าวร่วมกับคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

7.  การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

7.1  ทีอาร์เอสซีฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่หน่วยงานและบุคคล ดังต่อไปนี้

  1. ทีอาร์เอสซี อินเตอร์เนชั่นแนลเลสิคเซ็นเตอร์ และให้หมายความรวมถึงจักษุแพทย์ พนักงาน ลูกจ้าง กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคลากรของทีอาร์เอสซีฯ เท่าที่เกี่ยวข้อง และตามจำเป็น (need-to-know basis) เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  2. หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย อาทิ แพทยสภา กรมการแพทย์ สภาการพยาบาล สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ กรมการปกครอง กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมทรัพย์สินทางปัญญา

  3. หน่วยงานที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย เช่น แพทยสภา กรมการแพทย์ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด และศาล

  4. พันธมิตร คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ทีอาร์เอสซีฯ มอบหมายให้ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ ให้บริการ หรือบริหารจัดการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ด้านการพัฒนาปรับปรุง หรือดูแลรักษามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยของระบบงานและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการให้บริการการตรวจรักษา ด้านระบบการชำระเงิน การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล หรือการให้บริการอื่นใดอันอาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน

7.2  การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน ทีอาร์เอสซีฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน

7.3  ในกรณีที่ทีอาร์เอสซีฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น ทีอาร์เอสซีฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

7.4  ในกรณีที่ทีอาร์เอสซีฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ ทีอาร์เอสซีฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าทีอาร์เอสซีฯ ได้ส่งหรือโอนไปยังประเทศปลายทาง องค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ในบางกรณี ทีอาร์เอสซีฯ อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.  ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

8.1  ทีอาร์เอสซีฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ

8.2  ทีอาร์เอสซีฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดและโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติทางธุรกิจสำหรับแต่ละประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล หลังจากระยะเวลาดังกล่าว ทีอาร์เอสซีฯ อาจทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เหล่านั้นจากการจัดเก็บ หรือทำลายจากระบบของทีอาร์เอสซีฯ โดยไม่มีการแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า

9.  ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์

ทีอาร์เอสซีฯ ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการผู้เยาว์เป็นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยลักษณะขององค์กร ผลิตภัณฑ์ และบริการของทีอาร์เอสซีฯ นั้น ทีอาร์เอสซีฯ อาจเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นครั้งคราว ในกรณีดังกล่าวนั้น ทีอาร์เอสซีฯ จะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้ใช้อำนาจปกครองตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

10.  สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อทีอาร์เอสซีฯ ตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ 13. (วิธีการติดต่อ)

10.1  สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้ทีอาร์เอสซีฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้ทีอาร์เอสซีฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทีอาร์เอสซีฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่จำต้องขอความยินยอมจากท่าน เท่าที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้กระทำได้

10.2  สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

10.3  สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และทีอาร์เอสซีฯ จะดำเนินการดังกล่าว หากทีอาร์เอสซีฯ

  1. อาศัยฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลภายนอก หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่ในกรณีที่ทีอาร์เอสซีฯ สามารถแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือการยกข้อต่อสู้ตามกฎหมาย หรือ

  2. ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ของการตลาดแบบตรง

  3. ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือเชิงสถิติ เว้นแต่เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของทีอาร์เอสซีฯ

ในกรณีที่ท่านคัดค้านการประมวลผล โปรดระบุว่าท่านประสงค์ให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือระงับไม่ให้ทีอาร์เอสซีฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

10.4  สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านอาจขอให้ทีอาร์เอสซีฯ ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  2. ท่านถอนความยินยอมที่เป็นฐานในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และทีอาร์เอสซีฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอีกต่อไป

  3. ท่านได้คัดค้านการประมวลผลตามข้อ 10.3 หรือ

  4. เมื่อมีการเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

กรณีที่ระบุไว้ข้างต้นนี้จะไม่นำมาใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพื่อจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือสถิติ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับเวชศาสตร์ป้องกัน หรืออาชีวเวชศาสตร์ หรือประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย

10.5  สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีดังต่อไปนี้

  1. ทีอาร์เอสซีฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

  2. กรณีข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลายตามข้อ 10.4 แต่ท่านประสงค์ให้ระงับการใช้แทน

  3. ทีอาร์เอสซีฯ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป แต่ท่านมีความจำเป็นและขอให้ทีอาร์เอสซีฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ 

  4. ทีอาร์เอสซีฯ อยู่ในระหว่างการพิสูจน์ หรือตรวจสอบ เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของท่านตามข้อ 10

10.6  สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

10.7  สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม
ในกรณีที่ทีอาร์เอสซีฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับทีอาร์เอสซีฯ ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความครอบครองของทีอาร์เอสซีฯ

10.8  สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยทีอาร์เอสซีฯ โปรดติดต่อทีอาร์เอสซีฯ โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 13. (วิธีการติดต่อ) ด้านล่าง ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ทีอาร์เอสซีฯ จะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวก และดำเนินการตามคำร้องขอของท่านโดยไม่ชักช้า เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นก่อให้เกิดภาระแก่ทีอาร์เอสซีฯ เกินสมควร หรือเสี่ยงต่อการละเมิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอ

11.  ความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ทีอาร์เอสซีฯ ได้จัดทำและ/หรือเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของทีอาร์เอสซีฯ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

12.  การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์และบริการของบุคคลภายนอก

การให้บริการของทีอาร์เอสซีฯ อาจมีลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ และบริการของบุคคลภายนอก ซึ่งบุคคลภายนอกเหล่านั้นอาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการใช้บริการของท่าน คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ใช้เฉพาะสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดโดยทีอาร์เอสซีฯ เท่านั้น ทีอาร์เอสซีฯ ไม่สามารถรับผิดชอบในความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลใดๆ ของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมโดยเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบุคคลภายนอกดังกล่าว แม้ว่าท่านจะกดลิงก์เชื่อมโยงที่ปรากฏบนการให้บริการของทีอาร์เอสซีฯ ก็ตาม ทั้งนี้ ท่านควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว/นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ และบริการของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย

13.  วิธีการติดต่อ

หากท่านมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในคำประกาศเกี่ยวกับ ความเป็นส่วนตัวนี้ โปรดใช้แบบฟอร์มการติดต่อบนเว็บไซต์ของทีอาร์เอสซีฯ https://www.trsclasik.com/contactus นอกจากนี้ ท่านยังสามารถติดต่อ ทีอาร์เอสซีฯ ผ่านทางเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer) ของทีอาร์เอสซีฯ ได้ โดยใช้รายละเอียดการติดต่อดังต่อไปนี้

  • อีเมล : pdpa@trsclasik.com

  • โทรศัพท์ : 02 632 4432

  • โทรสาร : 02 632 4431

  • ส่งไปรษณีย์มาที่
    บริษัท ศูนย์รักษาสายตา จำกัด : เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล : Data Protection Officer
    968 อาคารอื้อจือเหลียง ชั้น 6 ถนนพระรามที่ 4 สีลม บางรัก กรุงเทพฯ 10500

14.  กฎหมายที่ใช้บังคับ

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและการตีความตามกฎหมายไทย และศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้

15.  การเปลี่ยนแปลงคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้

ทีอาร์เอสซีฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทีอาร์เอสซีฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใด ๆ ด้วยช่องทางที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ทีอาร์เอสซีฯ แนะนำให้ท่านตรวจสอบทบทวนคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว

ให้คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565

bottom of page