หลังเล่นน้ำสงกรานต์ควรดูแลดวงตาอย่างไร?
top of page

หลังเล่นน้ำสงกรานต์ควรดูแลดวงตาอย่างไร?

อัปเดตเมื่อ 22 เม.ย.




ในช่วงเทศกาลสงกรานต์หลายท่านอาจมีโอกาสได้ออกไปเล่นสาดน้ำ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า “ดวงตา” เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำ แป้ง หรือแสงแดดที่ร้อนจัด ซึ่งหลังจากเล่นน้ำสงกรานต์ท่านควรเฝ้าสังเกตโรคทางตาที่ตามมา หรือดูแลดวงตาอย่างไร เรามีคำตอบให้กับท่านค่ะ


โรคทางตาที่อาจตามมาจากการเล่นน้ำสงกรานต์

  • โรคตาแดง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส ที่อาจมาจากแหล่งน้ำไม่สะอาด หากเข้าตาอาจทำให้เกิดเยื่อบุตาอักเสบ หรือโรคตาแดงได้

  • โรคตากุ้งยิง เกิดจากการอักเสบของต่อมไขมันบริเวณเปลือกตา จากการติดเชื้อแบคทีเรีย หากขณะเล่นน้ำเกิดอาการคัน ระคายเคือง และขยี้ตาโดยมือที่ไม่สะอาด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคตากุ้งยิงได้

  • เป็นแผลในกระจกตา เกิดจากกระจกตามีแผลถลอกจนอักเสบ จนนำมาสู่การติดเชื้อ ซึ่งขณะเล่นน้ำอาจโดนฉีดน้ำใส่ตาโดยตรงอย่างรุนแรง รวมถึงการสวมคอนแทคเลนส์เข้า-ออก อาจทำให้เกิดการขูดที่กระจกตาจนถลอก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแผลในกระจกตาได้ 

 

เฝ้าสังเกตอาการโรคทางตาหลังเล่นน้ำสงกรานต์

หากท่านมีอาการตาแดง คันตา ระคายเคืองตา น้ำตาไหล หรือมีขี้ตาเป็นสีเขียว ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาต่อไป

 

ตรวจสุขภาพตา เพื่อความสบายใจ

การตรวจสุขภาพตาเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ ถึงแม้จะยังไม่มีอาการผิดปกติทางตา ก็ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเข้ารับการตรวจหลังเล่นน้ำสงกรานต์ ก็ถือเป็นสิ่งที่ทำให้ท่านสบายใจได้ว่าดวงตาของท่านมีสุขภาพดีและปลอดภัย


ควรตรวจสุขภาพตาบ่อยเเค่ไหน?

  • สายตาปกติ : - อายุ > 40 : 1 ครั้งทุก 1 ปี

- อายุ < 40 : 1 ครั้งทุก ๆ 2 ปี

  • สายตาไม่ปกติ (สั้น ยาว เอียง) : - 1 ครั้งทุก 1 ปี



 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเเกี่ยวกับการรักษา ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
โทร: 0 2632 4500
Messenger: m.me/lasikthai
LINE Official: @trscfamily
หรือ คลิก >> https://lin.ee/v8mKuTf

ดู 46 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page